วัดพระนางสร้าง

              ตำนานเดิมของวัดพระนางสร้าง มีผู้เล่าสืบต่อๆกันมาว่า พระนางเลือดขาว เป็นมเหสีของผู้ครองนครใดไม่ปรากฏแน่ชัด เป็นผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก ต่อมาถูกเสนาบดีในนครกลั่นแกล้ง กราบทูลต่อเจ้าผู้ครองนครใส่ร้ายว่า พระนางมีชู้กับมหาดเล็ก เจ้าครองนครหลงเชื่อ จึงรับสั่งให้เพชฌฆาต นำพระนางและมหาดเล็กนั้น ไปประหารชีวิต พระนางได้พยายามขอร้อง และแสดงความบริสุทธิ์ ถึงกระนั้นเจ้าผู้ครองนครก็ไม่ยอมเชื่อ เมื่อหมดหนทาง พระนางจึงได้ขอผ่อนผันให้ได้ไปนมัสการพระบรมธาตุที่เมืองลังกาเสียก่อน แล้วจะกลับมาให้ประหารชีวิต ในสมัยนั้น คนที่เดินเรือมาจากหมู่เกาะสุมาตราและเมืองลังกา ได้เล่าให้คนในนครนั้นฟังเสมอๆว่าที่เมืองลังกา พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก และในปีต่อมานั้นจะมีงานกุศลทางพุทธศาสนาครั้งยิ่งใหญ่ด้วย เจ้าผู้ครองนครจึงตกลงยินยอมให้พระนางไปเมืองลังกา เพราะคงมีเหตุผลที่ว่าคนในนครนั้น ไม่ชำนาญในการเดินเรือและหนทางก็ไกลมาก พระนางคงจะไปสิ้นพระชนม์เสียระหว่างเดินทางมากกว่า พระนางเลือดขาว และคณะที่ยังสวามิภักดิ์ต่อพระนางอยู่ ก็ออกเดินทางไป ตลอดเวลาของการเดินทาง พระนางเฝ้าแต่อ้อนวอน และยึดเอาคุณพระศรีรัตนตรัยให้คุ้มครองป้องกัน ทรงบอกแก่ผู้ร่วมเดินทางว่า ถ้าเราไม่สิ้นวาสนาเสียก่อน ต้องไปนมัสการพระบรมธาตุให้จงได้และถ้าเดินทางกลับมาโดยสวัสดิภาพ ก็จะสร้างวัดไว้เป็นที่ระลึก จึงจะไปรับอาญาที่ถูกกล่าวหา อาจจะเป็นด้วยบุญญาธิการที่เคยมีมาก่อน หรือผลานิสงฆ์แห่งการยึดมั่น ต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เป็นได้ พระนางและคณะจึงไปถึงลังกา ได้เข้านมัสการพระบรมธาตุด้วยความปีติยินดี และได้นำโบราณวัตถุหลายอย่างกลับมา ตอนเดินทางกลับ พระนางได้นำเรือเข้าพักที่เกาะถลาง และได้สร้างวัดนี้ไว้เป็นที่ระลึก ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "วัดพระนางสร้าง" หรือ "วัดนาสร้าง" เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียก เล่ากันว่า พระนางได้ปลูกต้นประดู่และตะเคียนไว้ด้วย พระนางคงเอาของมีค่าทางพระพุทธศาสนา ฝังไว้ในเจดีย์บ้าง แต่ตอนนั้นคงไม่ได้สร้างอะไรมากนัก เพราะภูมิเทศเป็นป่า (ต้นตะเคียนและต้นประดู่ ได้ถูกโค่นเพื่อสร้างโรงเรียน เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน ปี พ.ศ.2512) เมื่อสร้างวัดเสร็จแล้วก็ออกเดินทางต่อไปกลับสู่นคร           แม้จะรู้ว่ากำลังไปรับกับความตาย แต่พระนางก็มีความสุข ปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่เอาไว้ แต่เมื่อมาถึงชานเมือง ก็ทรงทราบว่าขณะที่พระนางไม่อยู่ ได้เกิดการแย่งชิงราชสมบัติ พระสวามีถูกประหารชีวิต พระนางจึงมิได้เข้าไปในนคร ด้วยเหตุนี้พระนางจึงพ้นโทษจากพระสวามี พระนางทรงกล่าวกับผู้ติดตามว่า ในชีวิตจะต้องสร้างวัดวาอารามให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทุกคนที่ติดตามต่างพากันอนุโมทนาสาธุ ดังนั้นจึงได้นำสิ่งของต่างๆที่นำมาจากเมืองลังกา นำไปสร้างวัดอื่นๆอีก แต่เมื่อเจ้าผู้ครองนครคนใหม่ได้ฟังเรื่องนี้เข้า จึงสั่งให้ทหารมาจับเพื่อนำไปประหารชีวิต พร้อมทั้งแย่งชิงของมีค่าทางพระพุทธศาสนาไปด้วย เมื่อเพชฌฆาตลงดาบตัดศรีษะของพระนางนั้น ปรากฏว่าโลหิตที่พุ่งออกมามีสีขาว ประชาชนจึงขนานนามว่า "พระนางเลือดขาว" ของวัดต่างๆที่พระนางได้สร้างไว้ก็จะมีชื่อตามพระนามของพระนางเป็นส่วนมาก


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image

แสดงความคิดเห็น
image
ความคิดเห็น
 
 
 
 

Website Policy | Privacy Policy | Security Policy | Disclaimer | ข้อกำหนดการใช้ Cookies รองรับการทำงานบน Internet Explorer v.11+, Microsoft Edge, Firefox v.47.0+, Chrome v.51+

จำนวนการเข้าชม : 627,959